ไอติมเย็นๆ เข็นมาหากลางแดดร้อน ๆ

ประเทศที่ตั้งอยู่ในแถบเส้นศูนย์สูตรอย่างเมืองไทย ซึ่งมีสภาพอากาศร้อนชื้น อบอ้าว จนคนไทยอย่างเรามักจะมีคำพูดติดตลกกันว่า “มีอยู่แค่สองฤดู คือร้อน กับ ร้อนมาก” นั้นสิ่งหนึ่งที่ช่วยเหลือให้ประชากรในประเทศต่อกรกับแสงอาทิตย์เจิดจ้าจนบางครั้งก็เกินพอดีของเมืองไทยได้เป็นอย่างดีนั้นคงหนีไม่พ้น “ไอติม” ของหวานเย็นๆช่วยเติมพลังยามบ่ายร้อนๆได้เป็นอย่างดี

“ไอติมตัก” จากรถเข็นเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งในประเทศเขตร้อนอย่างไทย ซึ่งอยู่คู่กับเมืองไทยมาช้านาน มีให้เลือกตั้งแต่รสกะทิสด เผือก ช็อคโกแลต หรือกระทั่งสตรอว์เบอร์รีก็ยังมีให้เห็น รสชาติไอศกรีมหอมๆหวานๆตัดกับรสจืดของขนมปังนุ่มๆกินกับทอปปิ้งจากวัตถุดิบพื้นเมืองอย่าง ข้าวเหนียว ถั่วคั่ว ลูกชิด ฯลฯ ตามแต่คุณลุงคุณป้าแม่ค้าจะนำเสนอเสกสรรมาให้ประชาชนชาวไทยได้เลือกลิ้มลองกันตามความพอใจ ทำให้คนไทยติดใจกันทุกยุคทุกสมัย และที่สำคัญนอกจากความอร่อยก็คือหาทานได้ง่าย บางเจ้าสั่นกระดิ่งเข็นรถเข็นมายั่วน้ำลายให้ได้ลิ้มลองกันถึงหน้าบ้านเลยทีเดียว

ว่าแต่เคยสงสัยกันบ้างไหม คุณลุงคุณป้าทำยังไงไอศกรีมในถังจึงสามารถฝ่าแดดแรงกล้าในตอนกลางวันซึ่งมีอุณหภูมิเฉียด 40 องศาของเมืองไทยมาได้โดยไม่ละลายกันนะ? ทั้งๆที่หากลองไปเยี่ยมๆมองๆที่รถเข็นก็ไม่มีวี่แววของการเสียบใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อรักษาอุณหภูมิแบบตู้เย็นเสียด้วยสิ แล้วเขาทำกันยังไงถึงเก็บความเย็นขั้นติดลบไว้ได้นานขนาดนี้กันละเนี่ย?

เคล็ดลับอยู่ที่ถังไอติมนี่เอง!

แท้จริงแล้วถังไอติมที่ไว้ใส่ไอศกรีมที่เราเห็นภายนอกเหมือนเป็นถังใหญ่ๆชิ้นเดียวนี้ ภายในจะแคบกว่าที่เราเห็นจากภายนอก นั่นเพราะตัวถังนี้มี 2 ชั้นนั่นเอง ผนังภายในของถังไอติมชั้นในจะเงาแวววาวทำให้สามารถสะท้อนความร้อน เก็บกักความเย็นกลับเข้าไปในถังได้ การแผ่ความร้อนจึงเกิดได้ยากมาก และเมื่อเรานำน้ำแข็งใส่ไว้ด้านใน โรยเกลือให้ทั่วน้ำแข็ง เกลือจะทำให้น้ำแข็งละลายเร็วขึ้นดึงอุณหภูมิในถังด้านในให้ลดต่ำลง เพราะเมื่อน้ำแข็งละลายจำเป็นต้องใช้ความร้อน น้ำแข็งก็จะดึงความร้อนจากไอติมของเรา อันเป็นสาเหตุให้เราสามารถเก็บกักอุณหภูมิภายในถังไอติมที่อยู่ชั้นในได้ยาวนานนั่นเอง

ดังนั้นคุณภาพของวัสดุที่ใช้ทำถังไอติมนี้ รวมถึงการประกอบตัวถังไอติมจะต้องมีความพิถีพิถันมาก หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นเพียงเล็กน้อยระหว่างการผลิตก็จะทำให้เราไม่สามารถเก็บรักษาอุณหภูมิได้ไม่ดีเท่าที่ควร ก่อให้เกิดปัญหาไอศกรีมละลายก่อนถึงเวลาอันควรได้ ดังนั้นหากเราเลือกที่จะหาถังไอติมไว้เก็บความเย็นแล้วละก็ไม่ควรมองข้ามการเลือกถังไอติมที่มีคุณภาพ และราคาที่สมเหตุสมผล เพื่อให้ถังไอติมได้ทำหน้าที่ของมันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และให้ความอร่อยที่อยู่ในถังสามารถอยู่กับเราได้อย่างเนิ่นนานที่สุดนั่นเอง

อ้อ ลืมเพิ่มเติมไปว่า หากร้อนนี้ ใครอยากจะทำไอติมกะทิขายก็ลงทุนไม่ยากนัก มีเงินประมาณหมื่นกว่าบาทก็เริ่มประกอบกิจการได้แล้ว โดย เครื่องทำไอติม ราคาเริ่มต้นไม่ถึงหนึ่งหมื่นบาท ถังไอติม ราคาใบละประมาณสามพันบาท และ ที่ตักไอติม อันละประมาณสี่ร้อยบาทเท่านั้นเอง